Employer of Record คืออะไร?
Employer of Record คือการจ้างงานในตลาดโลกแบบใหม่ เป็นวิธีที่รวดเร็วในการขยายธุรกิจ โดยในหลายๆ องค์กร คำว่า “why” เป็นคำอธิบายที่ค่อนข้างชัดเจน เพื่อเข้าถึงฐานลูกค้าที่กว้างขึ้นหรือการเช้าถึงมิชชั่นหรือโอกาสทางธุรกิจ และ “how” คือความพยายามหรือการดิ้นรน เพื่อนำไปสู่เป้าหมายของธุรกิจ
Employer of Record หรือ EOR คือทางเลือกที่รวดเร็วสำหรับตลาดโลกแบบใหม่ ที่ไม่ต้องคำนึงถึงต้นทุนและความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในการทำธุรกิจในต่างประเทศ
แล้ว EOR ทำงานอย่างไร?
EOR ทำงานด้วยความพยายามสูงใจการเซ็ทอัพธุรกิจในต่างประเทศ โดยจะรองรับทั้งการทำธุรกรรมธนาคาร การประกันภัย ภาษี การบริหารทรัพยากรบุคคล (HR) และสัญญาการจ้างงาน ตลอดจนการอำนวยความสะดวกในส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมถึงการทำระบบโครงสร้างพื้นฐานแรงงานของประเทศนั้นๆ ครอบคลุมทั้งการจัดหาคนงานและการจ่ายเงินค่าจ้างแรงงานท้องถิ่น เพราะว่า EOR เป็นตัวช่วยสร้างการเติบโตให้กับบริษัท ช่วยให้ผู้ประกอบการที่ไปทำธุรกิจต่างประเทศประกอบธุรกิจได้สะดวก ไม่ต้องมีนิติบุคคลที่จัดการเรื่องแรงงานในต่างประเทศ
ซึ่งเมื่อคุณใช้บริการ EOR จะช่วยในด้านการจัดการแรงงานในนามของบริษัท โดยการดำเนินการทั้งหมดเป็นขั้นตอนถูกต้องตามกฎหมายแรงงาน ทั้งการจ่ายเงินเดือน และกฎหมายการดูแลลูกจ้างในประเทศ
หน้าที่ของ EOR
- การดูแลแรงงานท้องถิ่นตามสัญญาที่เป็นไปตามข้อกำหนด
- ส่งเงินเดือนภาษีและผลประโยชน์ที่ค้างชำระ
- รองรับความต้องการด้าน HR ในประเทศ
เมื่อ EOR จัดการด้าน HR และกาจ่ายเงินเดือนในประเทศ คุณในฐานะที่เป็นลูกค้า สามารถรับผิดชอบลูกจ้างแบบ day-to-day work จึงทำให้บริษัทได้รับประโยชน์จากการมีแรงงานท้องถิ่น โดยไม่มีความเสี่ยงต่อธุรกิจ
เมื่อไรที่คุณควรต้องใช้ EOR
เมื่อบริษัทวางแผนจะขยายธุรกิจไปต่างประเทศ มีหลายเรื่องที่ต้องพิจารณา ซึ่งบางครั้งขาดประสบการณ์หรือเรื่องที่ต้องตระหนักในการทำธุรกิจ Employer of Record จึงคือตัวเลือกที่ดีที่สุดในการเป็นผู้ช่วยนำพาธุรกิจเติบโตได้ในต่างประเทศ
เพราะฉะนั้น EOR จึงคล้ายกับยายพาหนะที่จะพาบริษัทคุณไปค้นพบตลาดใหม่ และ EOR ช่วยให้คุณประเมินความพร้อมของตลาดต่างประเทศโดยการจ้างคนทำงานให้กับนักลงทุนในต่างประเทศ โดยหนึ่งในการเลือก EOR นอกจากจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาแล้ว ความน่าสนใจของบริการนี้คือจะช่วยให้นักลงทุนทดลองไปประกอบธุรกิจในต่างประเทศดูก่อนว่าชอบหรือไม่ ก่อนที่จะมีแผนก HR โดยไม่ต้องใช้บริการ Outsource
ทั้งนี้การทำธุรกิจในต่างประเทศนั้น หากมีผู้รับเหมาอิสระเป็นส่วนหนึ่งในการประกอบธุรกิจ ผู้ให้บริการ EOR จะช่วยดูแลเรื่องความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากการจ้างงาน และการละเมิดภาษี โดย EOR สามารถเป็นผู้ติดต่อให้ได้ ให้เป็นไปตามกฎหมายของประเทศนั้น ๆ ป้องกันความเสี่ยงจากบทลงโทษ หากไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย
บางครั้งการเริ่มต้นทำธุรกิจในตลาดใหม่ จะต้องดำเนินการอย่างรวดเร็ว มีแผนการดำเนินการที่รัดกุมทุกขั้นตอน ซึ่งสิ่งที่จะช่วยเซ็ทอัพการทำธุรกิจได้นั่นคือ บริการ EOR ที่บริษัทควรจะต้องทำคู่ไปกับแผนการทำธุรกิจ
สิทธิในการทำกิจการ
หากองค์กรของคุณ มีการรับพนักงานใหม่ แต่ไม่มีวิธีจ่ายค่าตอบแทนพนักงานใหม่ เนื่องจากติดปัญหากติดปัญหาด้านข้อกฎหมาย EOR จะเป็นตัวแทนการจ่ายค่าจ้างพนักงานท้องถิ่นไปตลอด หรือไปจนกว่าบริษัทจะตั้งบริษัทได้เรียบร้อยก็ได้เช่นกัน ตามเงื่อนไขการจัดตั้งบริษัทในต่างประเทศ ซึ่งอาจจะขึ้นอยู่กับรูปแบบและขอบเขตการทำธุรกิจ
แล้วควรจะเลือกผู้ให้บริการ EOR อย่างไร?
เมื่อถึงเวลาต้องประเมิน EOR ต้องพิจารณาจากองค์ประกอบบางประการ เพื่อให้การดำเนินการออกมาอย่างมีประสิทธิภาพและตรงกับความต้องการของบริษัท
อย่างแรกคือ ผู้ให้บริการ EPR มีประสบการณ์การทำธุรกิจหรือมีความเชี่ยวชาญการทำธุรกิจในประเทศนั้นๆ มากน้อยแค่ไหน เช่นเป็นนิติบุคคลโดยตรง หรือต้องติดต่อผ้านพาร์ทเนอร์ท้องถิ่น โดยสิ่งที่บริษัทจะต้องถามผู้ให้บริการ EOR มีดังนี้
บริษัทมีสถานะเป็นนิติบุคคลหรือไม่
เป็นเพียงนิติบุคคล หรือเป็นบริษัทร่วมลงทุนจากผู้ถือหุ้นรายหลาย ที่มีสถานะเป็นบริษัทจำกัด (LLC) หรือเป็นสาขาให้บริการ ที่สามารถให้บริการด้าน HR และการจัดทำแบบแจ้งหนี้ได้ โดยนิติบุคคลถาวร จะเป็นดัชนีบ่งชี้ความมุ่งมั่นของผู้ให้บริการได้เป็นอย่างดี
แล้วระดับความรู้ของ staff คืออะไร?
EOR จะมีพนักงานที่ให้บริการครอบคลุมทุกด้าน ทั้งในด้าน HR และการจ่ายเงินเดือนพนักงาน โดยผู้ให้บริการ EOR ชั้นนำ จะมีประสบการณ์การให้บริการลูกค้าอย่างน้อย 1 ปี ในประเทศนั้น และมีตัวอย่างลูกค้าอีกมากมายในประเทศอื่น เพื่อยืนยันความเชี่ยวชาญของบริษัทที่ทำด้าน EOR เพราะถ้า EOR ไม่มีประสบการณ์จะทำให้ไม่สามารถจัดการกับปัญหาของลูกค้าในเคสที่มีความซับซ้อนได้
สิทธิประโยชน์ของการจ้างทำ EOR
1.เวลาและเงิน : สิ่งแรกและสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ หากบริษัทใช้บริการ EOR จะช่วยประกยัดทั้งเงินและเวลา โดยเฉพาะบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็ก ที่ต้องการพนักงานไปทำงานต่างประเทศแค่เพียง 2-3 คนเท่านั้น (ข้อยกเว้น : ค่าใช้จ่ายและจัดการเวลาอาจจะเป็นปัญหาได้ หากมีการทำธุรกิจในละตินอเมริกา)
2.การรองรับในด้านท้องถิ่น : แต่ละประเทศจะมีข้อจำกัดด้านการลงทุนที่ไม่เหมือนกัน ขณะเดียวกันแต่ละประเทศจะให้สิทธิประโยชน์ ตลอดจนวิธีการจ่ายค่าตอบแทนแรงงานไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นบริการ EOR จะเป็นตัวช่วยในการลดความเสี่ยงให้กับผู้ประกอบการได้
3.มีเวลาในการทำธุรกิจมากขึ้น : หนึ่งในข้อดีที่จับต้องได้มากที่สุดที่บริษัทจะได้รับจากการใช้ผู้ให้บริการ EOR คือ นักลงทุนสามารถติดต่อกับพนักงานได้โดยตรง โดย EOR จะเป็นผู้ดูแลในด้านบริหารจัดการพนักงาน ทำให้บริษัทสามารถโฟกัสกับการทำธุรกิจ
Leave a Reply