มีหลายต่อหลายเรื่องที่ต้องนำมาจำแนกแยกย่อยเกี่ยวกับข่าวที่ถูกพูดถึงกันอย่างหนาหูในช่วงสัปดาห์นี้ ไม่ว่าจะเป็น หุ้น GameStop ตลาดหุ้น กลุ่มคนในReddit (Reddit groups) แพลตฟอร์มการซื้อขายออนไลน์ (trading app) และ กองทุน Hedge fund แต่ถ้าทั้งหมดนี้ดูเหมือนจะมากเกินไป เราก็ไม่ว่าอะไรถ้าคุณจะเบื่อหรอกนะครับ ในขณะที่เรายังไม่รู้ว่ากลุ่มที่เรียกว่ากบฏ Reddit จะเข้ามาเปลี่ยนอนาคตการลงทุนอย่างไร แต่มันปลอดภัยที่จะพูดว่า Wall Street จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป นี่คือนัยยะสำคัญ 5 ประการที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับสัปดาห์สุดโหดของ Wall Street
1. มันเป็นเรื่องราวระหว่างเดวิดและโกไลแอธ
ใจความสำคัญของมหากาพย์ GameStop คือการต่อสู้กันระหว่างนักลงทุนสองกลุ่มที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้ว ซึ่งก็คือ กลุ่มของ day trader สมัครเล่น ปะทะกับกลุ่มเซียน short-sellers ใน Wall Street
เดวิดในที่นี่โดยส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่ม day trader หน้าใหม่ที่รวมตัวกันบนเพจของ Reddit ในห้องแชทที่ชื่อว่า WallStreetBets หรือเรียกอีกอย่างว่า กองทัพReddit หรือ ม็อบReddit ซึ่งขึ้นอยู่กับมุมมองของคุณ “พวกเขาเห็นว่าคนรวยนับวันยิ่งจะรวยขึ้นมหาศาลโดยการหาผลประโยชน์กับค่าเงินที่ถูก และคนกลุ่มนี้ก็อยากได้ส่วนของตนเช่นเดียวกัน” ริชาร์ด ฟิชเชอร์ อดีตประธานของธนาคารกลางรัฐดัลลาส สหรัฐอเมริกากล่า
ภารกิจของพวกเขามีเป้าหมายสองประการ นั่นก็คือ ดันราคาหุ้นให้ไปถึงจุดทำกำไรและในขณะเดียวกันก็ให้บรรดานักลงทุนที่จัดตั้งขึ้นทิ้งหุ้นที่คาดว่าจะเป็นขาลง (bearish bets) ของบริษัทที่กำลังย่ำแย่ อย่างเช่น GameStop(GME), AMC(AMC), Macy’s(M) และอื่น ๆ
ส่วนโกไลแอธส่วนมากจะเป็นกลุ่มนักลงทุน hedge fund ที่ทำการ Short หุ้นเหล่านั้น หรือจะพูดอีกอย่างว่า นักลงทุนกลุ่มนี้เก็งกำไรจากการคาดการณ์ว่าหุ้นเหล่านั้นจะตก พวกเขายังเป็นกลุ่มคนรวยที่นักลงทุนหลายล้านคนจับตามองเพื่อเป็นแนวทางการตัดสินใจในการ boost Portfolio ของตน แต่การทำงานในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับระบบที่มีช่องว่างแบบนี้นั้น ทำให้เกิดวิกฤติทางการเงินในปี 2008 ซึ่งขาใหญ่เหล่านี้ก็ดูจะไม่เป็นที่รักสักเท่าไหร่
โพสต์ต่าง ๆ บน WallStreetBets Subreddit จึงเป็นพื้นที่ ที่ผู้คนมากมายเพลิดเพลินกับการนั่งดูบรรดา Short seller พากันสูญเงินหลายพันล้านเหรียญอย่างเปิดเผย
2. จริง ๆ แล้ว GameStop เริ่มต้นอย่างไร
ชุมชนออนไลน์ WallStreetBets ซึ่งตอนนี้ได้คุยโวว่ามีผู้ติดตามถึง 5 ล้านคน และได้เข้าร่วมกันมาตั้งแต่ปี 2012 และบรรยายถึงตัวเองว่า “4chan found Bloomberg Terminal” เป็นพื้นที่แสดงความเห็นเชิงปฏิวัติด้วยภาษาที่ยากจะเข้าถึง และสมาชิกหัวรุนแรงก็ได้เติมเชื้อการทำสงครามบนช่องทางหลักโดยการใส่แนวคิดของตนลงไป
คนกลุ่มนี้ได้สังเกตเห็นว่า GameStop ซึ่งกำลังย่ำแย่กับธุรกิจจำหน่ายวีดีโอเกมได้ถูกบรรดากลุ่ม hedge fund เข้ามา short กันอย่างหนัก (ความคิดเห็นของคนใน Wall Street ส่วนใหญ่มองว่า GameStop จะเป็นแบบเดียวกันกับ Blockbuster ในไม่ช้า) ซึ่งนักลงทุนใน Reddit มองอีกแบบ อย่างไรก็ดี พวกเขาเหล่านั้นก็ได้เริ่มซื้อหุ้นของบริษัทที่พวกเค้าเชื่อว่าต่ำกว่ามูลค่าตุนเอาไว้
3. ทำไมมันถึงกลายเป็นเรื่องใหญ่
ถึงแม้ว่าจะมีการสุมไฟกันมาสักพักแล้ว แต่การวิ่งครั้งนี้ก็เพิ่งออกตัวกันเมื่อวันจันทร์ ที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา เมื่อ GameStop ได้ออกมาประกาศเกี่ยวกับผู้อำนวยการใหม่สามคนที่จะเข้ามาร่วมบริหารในบอร์ด ซึ่งรวมไปถึงผู้ร่วมก่อตั้ง Chewy อย่าง ไรอัน โคเฮน ทำให้บรรดานักลงทุนต่างชอบใจที่โคเฮนจะนำประสบการณ์ด้านดิจิทัลมาใช้ประโยชน์กับอนาคตที่ดูริบหรี่มากสำหรับ GameStop เนื่องจากวีดีโอเกมได้เข้าสู่ระบบดิจิทัลและราคาที่ขายปลีกในร้านค้าก็ตกฮวบลงเรื่อย ๆ
หุ้นของ GameStop ขึ้นมาน้อยกว่า 13% ในวันนั้น แต่นี่ไม่ใช่การพุ่งทะยานในระยะสั้น ๆ ตามปกติของตลาดหุ้น สองวันหลังจากนั้นราคาหุ้นก็เพิ่มขึ้นเป็น 57% แล้วก็ 27% และเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ฝูงชนใน Reddit ก็ได้ลากราคาหุ้นของ AMC Blackberry Macy’s และหุ้นอื่น ๆ ที่ถูก short หนัก ๆ ให้กระโดดขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน แล้วพอมาถึงวันศุกร์ หุ้น GameStop ก็ได้ทำให้ทุกคนอ้าปากค้างโดยการขึ้นมาที่ 1,587% ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมกราคม
สำหรับภาพรวม: หนึ่งปีที่แล้ว หุ้นหนึ่งหน่วยมีราคา 4 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งตอนนี้อยู่ที่ราคา 150 เหรียญ
การพุ่งทะยานที่เกิดขึ้นนั้นท้ายที่สุดแล้วก็ไม่ได้มีผลในเรื่องความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจของ GameStop มากสักเท่าไหร่ เนื่องจากกลุ่ม Reddit ได้เข้ามากว้านซื้อออปชั่นหุ้น GameStop กันอย่างมากมาย ทำให้บรรดา Short Seller ต้องซื้อหุ้นดังกล่าวเพิ่มเข้ามาเพื่อป้องกันการขาดทุนซึ่งยิ่งเป็นการกระตุ้นราคาให้สูงขึ้นไปอีก และนี่คือสิ่งที่รู้จักกันในรูปแบบของการ short sqeeze ซึ่งทำให้คนหลายล้าน รวมถึง อีลอน มัสก์ ถูกขัดจังหวะ
มันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและได้กลายเป็น “ความโกลาหลที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะ Pitchfork ได้แบบไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมให้กับโบรกเกอร์” คริสติน โรมานส์ จากสำนักข่าว CNN ได้กล่าวไว้ และกลุ่มคนที่ต้องร้องยี้กับสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือบรรดาผู้เล่น “ที่ทรงคุณวุฒิ” ทั้งหลาย ใน Wall Street
“เค้าเหน็บกันได้มันส์มาก” โรมานส์ได้เขียนไว้ “วงในของ Wall Street ได้ถูกแฟลชม็อบออนไลน์ดัดหลังซะแล้ว”
4. การ Backlash ของ Robinhood
GameStop คือหุ้นที่มีการซื้อขายมากที่สุดในปฐพี หลังจากนั้นก็มีแขกที่ไม่ได้รับเชิญอย่าง Robinhood เข้ามาเอี่ยว ในวันพฤหัสบดีช่วงเช้า จากความผันผวนอย่างสุดโต่งที่เกิดขึ้น ได้ส่งผลให้ trader มือสมัครเล่นหลายล้านคนที่ทำการซื้อขายผ่านแอพพลิเคชั่นฟรีนี้ เข้ามาบล็อกการซื้อขายที่กำลังร้อนระอุของชาว Reddit ซึ่งส่งผลให้ชาว WSB เหลือสองทางเลือก นั่นก็คือ ถือไว้ หรือ ขายออก ในขณะที่นักลงทุนอาชีพตามสถาบันต่าง ๆ ที่ไม่ต้องเทรดผ่านแอพพลิเคชั่น Robinhood สามารถซื้อหุ้นต่อไปได้
หุ้น GameStop ตกลงมามากกว่า 44% ในวันพฤหัสบดีหลังการพุ่งทะยานไปที่ 40% ในจุดเดียวที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน การ Backlash เป็นไปอย่างรวดเร็วมาก ซึ่งทำให้คนที่ลงเงินจำนวนมหาศาลไปกับหุ้น GameStop เริ่มหัวเสีย ความคิดเห็นของคนในโซเชียลมีเดียโดยส่วนใหญ่มองว่า Robinhood นั้นสร้างแบรนด์ขึ้นมาได้จากการลงทุนของผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครต กำลังล้มเพราะถูกกดดันจากอำนาจของWall Street
สมาชิกสภาคอนเกรสหญิง อเล็กซานเดรีย โอคาซิโอ-คอร์เทซ ได้ลงญัตติการบล็อกหุ้นดังกล่าวว่า “ไม่เป็นที่ยอมรับ” สมาชิกใน Reddit ผู้หนึ่งได้ทำการฟ้องร้องทางกฎหมายอย่างรวดเร็วโดยอ้างว่าทาง Robinhood นั้นทำการปั่นตลาด ซึ่ง Robinhood ได้ขอประณีประนอมในคืนวันพฤหัสบดี โดยกล่าวว่าจะทำการเริ่มต้นการจำกัดการซื้อหุ้นในวันถัดไป ซึ่งนอกจากนี้ยังมีการระดมทุนในรูปแบบเงินสดจากนักลงทุนเอกชนเข้ามา 1 อีกพันล้านเหรียญสหรัฐ เป็นสัญญาณว่าการ short selling นั้นถูกดำเนินการในรูปแบบของเงินสด ในเช้าวันศุกร์ ความตื่นเต้นของ GameStop ก็ได้กลับมาอีกครั้งด้วยการเปิดตลาดคร่าวๆที่ 100%
5. ฟองสบู่ก็จะแตก ในท้ายที่สุด
มีการถกเถียงกันขึ้นว่า GameStop มีมูลค่าที่ต่ำกว่าราคา แต่ก็ยากที่ใครจะเชื่อว่า ทั้ง GameStop Blackberry Maycy’s AMC หรือบริษัทอื่น ๆ ที่ฝูงชนชาว Reddit ให้การผลักดันนั้นจะเป็นฐานรากในดันราคาขึ้นไปสูงเสียดฟ้า ซึ่งได้เกิดขึ้นจริงในครั้งหนึ่ง แต่นั่นคือปัญหาแบบฟองสบู่- get out เร็วเกินไป ซึ่งทำให้เสียโอกาสในการ Cash out ในจุดที่ดีที่สุด ดังนั้น GameStop ก็เลยยังพุ่งทะยานต่อไปจนกว่ามันจะนิ่ง
“ใครบางคนกำลังจะเจ็บตัว” ฟิชเชอร์ อดีตประธานธนาคารกลางรัฐดัลลาส กล่าว “มันเกิดขึ้นโดยพฤติกรรมของคนหมู่มาก และปิดฉากโดยมีคนเข้ามาในตอนท้ายช่วงที่ราคามันพุ่งขึ้นสูงมาก ๆ และนั่นคือการเดินเข้ากองไฟ”
ทาง กลต. ของสหรัฐอเมริก ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ควบคุมดูแล Wall Street ได้กล่าวว่าจะทำการ “ทบทวนอย่างใกล้ชิด” ในเรื่องช่องทางการเทรดเพื่อเข้มงวดในเรื่องการทำธุรกรรมให้มากขึ้น
Leave a Reply